วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร

โดย ปุณณภา ขันธรัตน์

ปัจจุบัน ประเทศไทยนั้น อยู่ในยุคสมัยของรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นสมัยที่ไทยมีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ แต่ที่ยังคงดำรงคอยู่นั้นคือศาสนสถานสำคัญที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของรัตนโกสินทร์ ทั้งยังมีความสวยงามและมีความเกี่ยวของกับพระมหากษัตริย์ โดยเป็นวัดประจำราชการ  “วัดพระศรีรัตนศาสดาราม” เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความสวยงามโดดเด่นในสมัยรัตนโกสินทร์

“วัดพระศรีรัตนศาสดาราม” หรือ “วัดพระแก้ว” นั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นพร้อมกับสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อพ.ศ. 2325 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2327 สร้างขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง ตามแบบวัดพระศรีสรรเพชญสมัยอยุธยาเป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ ใช้เป็นที่บวชนาคหลวง และประชุมข้าทูลละอองพระบาทถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และโปรดเกล้าให้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกตอีกด้วย ภายหลังจากการสถาปนาวัดแล้วก็ได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกรัชกาล

ทั้งนี้ยังได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระนามใหม่เพื่อให้เป็นศิริสำหรับพระนครว่า “กรุงรัตนโกสินทร์อินท์อโยธยา” คือเป็นที่เก็บรักษาไว้ขององค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรและทรงสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามพร้อม ๆ กับการสร้างพระราชมณเฑียรและป้อมปราการในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งสิ่งก่อสร้างในพระบรมมหาราชวังครั้งแรกนั้นเป็นเครื่องไม้ทั้งสิ้น  เว้นแต่วัดพระแก้วเท่านั้นที่ก่ออิฐถือปูน

เนื่องจากเป็นวัดสำคัญจึงมีการปฏิสังขรณ์ใหญ่ทุก 50 ปีซึ่งมีขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเนื่องจากวัดชำรุดทรุดโทรมลงมากและในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณะเพื่อเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 100 ปี  ใน พ.ศ. 2425 ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์ทั้งพระอารามในโอกาสที่มีพระราชพิธีฉลองพระนครครบ 150 ปี และในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ทั้งพระอารามอีกครั้งใน พ.ศ. 2525 เมื่อมีการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปีโดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นองค์ประธานในการบูรณะในครั้งนีด้วย

สถาปัตยกรรมที่สำคัญของวัดพระศรีรัตนศาสดารามนั้นคือ พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนสูงชั้นเดียวรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าจัตุรัส ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ศาลาราย เป็นศาลาหลังเล็ก อยู่รอบนอกกำแพงแก้วพระอุโบสถใช้สำหรับพิธีสวดมหาชาติคำหลวง

พระศรีรัตนเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ทรงกลมแบบลังกา ก่ออิฐถือปูนประดับกระเบื้องโมเสกทอง ปราสาทพระเทพบิดร หรือพระพุทธปรางค์ปราสาทเป็นปราสาทจตุรมุขยอดปรางค์  ภายในปราสาทเป็นประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชวงศ์จักรี

พระมณฑป ตั้งอยู่ด้านหลังปราสาทพระเทพบิดร ใช้ประดิษฐานพระไตรปิฎกฉบับทองแทนหอมณเฑียรธรรมหลังเดิมที่ถูกเพลิงไหม้ทั้งนี้ยังมี หอมณเฑียรธรรมหอคันธารราษฎร์ หอพระนากพระวิหารยอดนครวัดจำลอง พระโพธิธาตุพิมานพระบรมราชานุสาวรีย์ประจำรัชกาลพระอัษฎามหาเจดีย์หรือพระปรางค์แปดองค์ พระมณฑปยอดปรางค์ หอระฆังพระเจดีย์ทอง 2 องค์หอพระราชพงศานุสรและหอพระราชกรมานุสรณ์ เป็นต้น

วัดพระศรีรัตนศาสดารามนั้นเป็นวัดที่มีความสำคัญสำหรับราชวงค์รัตนโกสินทร์เป็นอย่างมากโดยภายในวัดนั้นมีสถาปัตยกรรมจำนวนมากและมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ทั้งยังเป็นวัดที่ได้รับการปฏิสังขรณ์ใหญ่ทุก ๕๐ ปีโดยพระมหากษัตริย์สมัยรัตนโกสินทร์ถึง 4 พระองค์ และที่สำคัญยัง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกตที่เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของไทยอีกด้วย

อ้างอิง

ท่องวัดผ่านเว็บ.  (2557).  วัดพระศรีรัตนศาสดาราม.  ค้นข้อมูล 16 มกราคม 2557, จาก http://www.lib.su.ac.th/web-temple/index.php?option=com_content&view=article&id=17&Itemid=18

ธรรมะไทย.  (2557).  วัดพระศรีรัตนศาสดาราม.ค้นข้อมูล 16มกราคม 2557,  จาก http://www.dhammathai.org/watthai/bangkok/watprasiratana.php
 

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้วมรกต)


พระศรีรัตนเจดีย์ พระมณฑป และปราสาทพระเทพบิดร


ปูนปั้นรูปยักษ์หน้าประตูระเบียงคต


พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร


No comments:

Post a Comment