หน้าเว็บ

Pages

08 December 2015

วัดป่าภูก้อน จังหวัดอุดรธานี

โดย ประภาพร อรดี

แต่ไหนแต่ไรมา ประเทศไทยไม่เคยขาดพระภิกษุสงฆ์ ผู้คงแก่เรียนและเต็มไปด้วยวิถีปฏิบัติ ที่ชอบ ที่ควร ตามรอยขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นแบบอย่างให้แก่เราชาวพุทธบริษัท พุทธสถานก็เช่นเดียวกัน เรามีวัด และสถานปฎิบัติธรรมอยู่มากมายทั่วประเทศ เพื่อใช้ในการเรียนรู้ ศึกษาพระธรรม และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่มีความเก่าแก่ หรือสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ในตัวเมือง หรือสถานที่ที่อยู่ตามชนบท หรือรายล้อมไปด้วยความเป็นธรรมชาติก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่อจิตใจ และมีความน่าเลื่อมใสในตัวเอง จากกระแสความศรัทธาของผู้คนที่มีมาอย่างยาวนานหลายพันปี

แต่หากจะกล่าวถึง พุทธสถาน ที่เป็นทั้งศูนย์รวมจิตใจ เปี่ยมล้นไปด้วยความศรัทธาที่หลั่งไหลมากจากทั่วทุกสารทิศ ที่รายล้อมไปด้วยป่าเขาที่เขียวขจีบนพื้นที่กว่า 3000 ไร่ แหล่งต้นน้ำลำธารอันอุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงสถาปัตยกรรมที่สวบงามสะดุดุตา มีการตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา มีเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร หนึ่งเดียวในแถบภาคอีสานตอนบน แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึง “ป่าห่มศรัทธา วัดป่าภูก้อน จังหวัดอุดรธานี”


ที่มา: http://www.naiia.org/post/

วัดป่าภูก้อน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ท้องที่บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี อันเป็นรอยต่อแผ่นดิน 3 จังหวัด คือ อุดรธานี เลย และหนองคาย กำเนิดขึ้นจากการดำริชอบของพุทธบริษัทสี่ ผู้ตระหนักถึงคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและป่าต้นน้ำลำธาร ซึ่งกำลังถูกทำลาย

โดยในปี พ.ศ. 2527 พระเดชพระคุณหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้ไปธุดงค์ทางภาคอีสาน คุณปิยวรรณและคุณโอฬาร วีรวรรณ พร้อมคณะได้เดินทางมาแถบจังหวัดสกลนครและอุดรธานี เกิดความเลื่อมใสในปฏิปทาของพระป่า จึงได้เข้าช่วยเหลือท่านพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก สำนักสงฆ์บ้านนาคำน้อย ในการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจัดตั้งเป็นวัดป่านาคำน้อย และปลูกป่าทดแทนฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมกว่า 750 ไร่ อย่างถูกต้องตามระเบียบของกรมป่าไม้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติธรรมและอยู่อาศัยของพระสงฆ์ จากนั้นท่านพระอาจารย์อินทร์ถวายได้พาไปดูป่าภูก้อนที่กำลังถูกสัมปทานตีตราตัดไม้ คณะศรัทธาจึงได้ตัดสินใจสร้างวัด โดยกราบอาราธนาท่านพระอาจารย์ชาลี ถิรธัมโม (ปัจจุบันเป็นพระครูจิตตภาวนาญาณ) เป็นประธานและขวัญกำลังใจในการก่อสร้าง และได้ทำเรื่องขอใช้ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาตินายูง-น้ำโสม เพื่อสร้างวัดในเนื้อที่ 15 ไร่ จากกรมป่าไม้ ต่อมาได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกรมการศาสนา จนได้รับอนุญาตให้สร้างวัดในวันที่ 3 กรกฎาคม 2530 และมีประกาศกระทรวงศึกษาธิการตั้งเป็น 'วัดป่าภูก้อน' ขึ้นในพระพุทธศาสนาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2530



ปัจจุบันนี้วัดมีศาลาอุโบสถ 2 ชั้น 1 หลัง ซึ่งเป็นที่ประกอบพิธีสงฆ์ชั้นบนและเป็นที่ฉันชั้นล่าง มีกุฏิพระ 45 หลัง เรือนครัว 1 หลัง เรือนพักฆราวาส 6 หลังถังเก็บน้ำคอนกรีต 20 ถัง และห้องน้ำจำนวนมาก โดยใช้ระบบประปาภูเขา จากฝายเก็บน้ำดินขนาดเล็กที่เป็นแหล่งต้นน้ำซับและน้ำตกในวัด ซึ่งต่อมากรมชลประทานได้บูรณะถวายให้แข็งแรงถาวรในปี 2538 และวัดยังได้ต่อระบบประปาไปถึงหมู่บ้านนาคำที่อยู่ห่างจากวัดไป 4 กม. เพื่อให้ชาวบ้านมีแหล่งน้ำใช้อย่างสะดวกและสะอาด

ด้วยความสง่างามและความศักดิ์สิทธิ์ของอาณาเขตพุทธอุทยาน และป่าสงวนแห่งชาติบนเนื้อที่กว่า 3,000 ไร่ ที่กรมป่าไม้ได้ให้วัดป่าภูก้อนช่วยดูแลงานด้านป่าไม้ (เพิ่มขึ้นจากพื้นที่พุทธอุทยานเดิมอีก 2,000 ไร่) เพื่อรักษาป้องกันไฟป่าและการบุกรุกทำลายป่าล่าสัตว์ วัดป่าภูก้อนจึงเป็นที่สงบสัปปายะ วิเวกควรแก่การบำเพ็ญภาวนารักษากายวาจาและจิตใจในกรรมฐานเป็นที่สุด ดังมีผู้ได้พบเห็นหลักฐานความอัศจรรย์ของธรรมชาติแห่งนี้อยู่เสมอ คณะศรัทธา จึงร่วมกันดำริสร้างพระมหาเจดีย์ นามว่า "พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์"


ที่มา: http://www.tamdoo.com/

ภายในอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี” ที่สร้างเนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ พระพุทธรูปปางไสยาสน์แนวนอนความยาวกว่า 20 เมตร ที่ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 6 ปี และเต็มไปด้วยตำนานเล่าขาน ตั้งแต่การได้มาของหินอ่อนขาวบริสุทธิ์จากประเทศอิตาลี ซึ่งนำมาใช้เป็นส่วนของเศียรพระ รวมถึงงานแกะสลักอันวิจิตรตระการตาราวกับมีชีวิต จากนั้นแวะขึ้นไปกราบนมัสการ “องค์พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์” เจดีย์ที่ชั้นบนสุดเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

ในปัจจุบันนี้ วัดป่าภูก้อนดำรงคงอยู่ด้วยความสมดุลของป่าไม้ที่ทวีความอุดมสมบูรณ์ขึ้นทุกคืนวัน โดยบุคคลผู้มีความศรัทธาและระลึกคุณของสรรพสิ่งทั้งหลายของชาติและแผ่นดินอันเป็นที่กำเนิดแห่งชีวิต โดยมีคุณพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องสำนึก และมีพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ที่ชาวไทยทุกคนควรทดแทน เป็นกำลังใจส่งเสริมพระสงฆ์ผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบให้ดำรงปฏิปทาของพระป่ากรรมฐานเพื่อบูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จนถึงที่สุด

การเดินทางไปวัดป่าภูก้อน จากตัวเมืองจังหวัด อุดรธานี ให้ออกทางหลวงเส้นจังหวัดหนองคาย ไปถึงหลักกิโลเมตรที่ 13 แยกซ้ายไป อ.บ้านผือ อ.นายูง จนถึง บ.นาคำใหญ่ จะมีทางเลี้ยวเข้าวัดป่าภูก้อน รวมแล้วระยะทางจากตัวเมืองอุดรธานี ถึงวัดป่าภูก้อน 125 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที รถทุกชนิดสามารถขึ้นได้ยกเว้นรถบัสคันใหญ่ต้องจิดไว้ตรงปากทางขึ้นแล้วใช้บริการรถสองแถวขึ้นไปยังวัด เสียค่าบริการ คนละ 20 บาท

อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า วัดป่าภูก้อน เป็นพุทธสถานที่สวยงาม วิจิตรตระการตา อย่างมีเอกลักษณ์ และทรงคุณค่าคู่ควรแก่การเยี่ยมชม และสักการบูชา รวมถึงการแสดงกตัญญูกตเวทิตาแด่คุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และบูรพอาจารย์กรรมฐานในแถบอีสาน ทั้งยังเป็นมงคลสถานที่พุทธศาสนิกชน จะได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของป่าไม้อันให้ประโยชน์ทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นที่ปฏิบัติขัดเกลาจิตใจ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอีสาน ซึ่งควรร่วมกันส่งเสริมรักษาอย่างจริงจังตลอดไป



อ้างอิง

กาลครั้งหนึ่ง...ในถิ่นอีสาน จากอุดรฯ ถึงหนองคาย “สัมผัสป่าห่มศรัทธา-ชมเกล็ดพญานาคริมโขง” Retrieved 19 กันยายน 2558, from http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000010748

ประวัติวัดป่าภูก้อน Retrieved 19 กันยายน 2558, from http://www.watpaphukon.org/history/

วัดป่าภูก้อน Retrieved 19 กันยายน 2558, from http://www.flydrivethai.com/index.php/relaxing-car-drive/10-dreamdestinations/dreamdestinations-2/dreamdestinations-watpaphukon

No comments:

Post a Comment